ถือฤกษ์งามยามดี วันที่ 11/1/11 ในการเริ่มต้นเขียนบันทึกอย่างจริงจัง หลังจากตั้งท่าอยู่เป็นนาน สองนาน จริงๆการเริ่มเขียนมันก็ไม่ยากเท่าไหร่หรอกนะคะ แต่การจะเขียนให้ตลอดรอดฝั่งนี่สิ มันดูจะทำได้ลำบากเหลือเกิน การจะมานั่งขีด นั่งเขียน บรรยายสิ่งต่างๆนาๆได้ทุกวัน มันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และมีความรักที่จะทำมันด้วย หลายคนอาจจะบอกว่า การจะทำสิ่งใดแค่มีความรักที่จะทำมันก็พอ อยากจะถามกลับไปว่ามันพอจริงๆหรอ ความรักชนะทุกอย่าง อะไรประมานนั้น ….แต่ว่าแค่รักมันไม่พอจริงๆ ….
ถามว่าถ้ารักที่จะทำจะมาพล่ามพรรณนาอะไรถึงความพยายามมากมายนักหนา สำหรับใครหลายๆคน การที่ต้องทำงานประจำทุกวัน เลิกงานเร็วบ้าง เย็นบ้าง ดึกบ้าง การจะหาเวลาส่วนตัวทำอะไรซักอย่างดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย มันจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกระตุ้นตัวเองขึ้นมาจากความเหนื่อยล้าและความขี้เกียจที่มีอยู่ในตัว(สูงมาก) มาทำอะไรซักอย่าง ความพยายามที่บ่นนักหนาว่าต้องมีนอกเหนือจากความรัก ก็ความพยายามในการเริ่มต้นเนี่ยแหละ อย่างในตอนนี้ฉันเลือกที่จะใช้ความพยายามในการดึงตัวเองขึ้นมานั่งเขียนเรียบเรียงเรื่องราวร้อยแปดพันเก้า และเพราะความรักในการเขียนนี่หละ การได้มานั่งเขียนนั่งเล่า กลายมาเป็นความสุขเล็กๆ ของแต่ละวัน
เคยนั่งคิดเหมือนกันว่า แล้วจากความพยายามมันจะกลายมาเป็นความรักได้บ้างมั้ย เมื่อก่อนตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ไม่เคยรู้อะไรเลยเกี่ยวกับธุระกิจที่บ้าน รู้แต่ว่าบ้านชั้นทำบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ชั้นจะเรียนอะไรมา จะจบอะไรมาไม่สำคัญเพราะสุดท้ายชั้นก็กลับมาทำงานที่บ้านอยู่ดี แต่โชคดีหน่อยที่เลือกเรียนในสิ่งที่ไม่ห่างไกลกันมาก (เรียนจบสถาปัตย์ค่ะ ต่อด้วยการบริหารโครงการ) ตอนนั้นก็ไม่แน่ใจนักว่าอยากเรียนสถาปัตย์ ถามว่ารักในวิชาที่เรียนมั้ย ตอบได้ว่าสนุกกับการเรียน ดีใจที่ได้เรียน แต่ถ้าถึงกับว่ารักในอาชีพในความเป็นสถาปนิกมั้ย ตอบไม่ได้เลยจริงๆ เพราะตั้งแต่เรียนจบก็โดนดึงตัวมาทำงานที่บ้านเลย มันไม่มีเวลามาให้นั่งพิจารณาตัดสินใจ หรือจะบอกว่าไม่มีโอกาสก็คงจะไม่ผิด แต่ การที่เราไม่มีทางเลือก และเราก็ยังใหม่มากกับสิ่งที่ต้องผจญ มันทำให้เราต้องพยายามเรียนรู้และทุ่มเทกับมันมาก การทุ่มเททุ่มใจลงไปกับอะไรซักอย่าง ความสำเร็จที่ได้ มันก็มาพร้อมความภาคภูมิใจเสมอ และความภาคภูมิใจเนี่ยแหละเป็นแรงใจและแรงผลักดันได้ดีจริงๆ มีล้มลุกคลุกคลานบ้าง มันคือการเรียนรู้และเราก็สนุกที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้น สุดท้ายก็หลงรักในอาชีพนี้ ในงานนี้ และแล้วความพยายามก็กลายมาเป็นความรักได้จริงๆ
อยากให้ทุกคนได้คิดได้ลองทำ ลองพยายามกับอะไรซักอย่างอย่างจริงจัง และเมื่อคุณทุ่มตัวและเทใจลงไปกับมัน คุณจะรู้ว่าความสำเร็จที่ได้มามันคุ้มค่าจริงๆ หรืออย่างน้อยการที่เราพยายามอย่างที่สุด ถึงผลที่ได้มามันไม่ใช่สิ่งที่คิดที่หวัง สุดท้ายมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณรักจะทำด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยคุณจะเห็นว่าตัวคุณเองทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิดเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น